วัตถุประสงค์
1. เรียนรู้ความสำคัญของการสื่อสาร เพื่อการสื่อสารกับทีมงานอย่างมีประสิทธิภาพและได้งานตามเป้าหมาย
2. สามารถจูงใจให้ลูกน้องปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จตามเป้าหมายอย่างเต็มใจด้วยการสื่อสารที่เหมาะสม
3. ชี้ให้เห็นถึงอุปสรรคปัญหาการสื่อสารในองค์กรธุรกิจ และให้แนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม
4. มีเทคนิคการในสื่อสาร รวมทั้ง story telling เพื่อสร้างความเข้าใจและการยอมรับ
5. สามารถให้ข้อมูลป้อนกลับกับทีมงานอย่างถูกต้องเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
หัวข้อการฝึกอบรม
1. ปัญหาการสื่อสารในทีมงาน ระหว่างหัวหน้า-ผู้จัดการหน่วยงาน กับ ผู้ปฏิบัติงาน
– วิเคราะห์กรณีศึกษา…. “ชักน้อยใจแล้วล่ะ” …. อุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการสื่อสารที่ไม่สัมฤทธิ์ผล….ภาษา ไม่พาสาร
2. การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ เพื่อมอบหมายงาน และควบคุมการปฏิบัติงาน อย่างมีประสิทธิผล
3. วิธีสื่อสารเพื่อกระตุ้นจูงใจลูกน้องให้เต็มใจทำงาน
– เลือกวิธีการนำเพื่อกระตุ้นจูงใจลูกน้องในสถานการณ์ต่างๆอย่างเหมาะสม
4. EQ กับการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์
5. เทคนิควิธีการสื่อสาร
– การวิเคราะห์ผู้รับสาร : ต่างคน ต่าง Gen ต่างบุคลิก ต่างตำแหน่ง-หน้าที่ จะสื่อสารอย่างไรดี
– ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร : ภาษาทางการ / กึ่งทางการ / ไม่เป็นทางการ
– การวิเคราะห์สาร : สื่อสารอย่างไรเพื่อให้เข้าใจในสารแต่ละประเภท
– ทิศทางและช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์
– Story Telling เพื่อสร้างการยอมรับและความร่วมมือ
– Story Telling มีเทคนิคอย่างไร
6. ศิลปะการครองใจคน …การสื่อสารกับบุคคลในสภาวะอารมณ์ /บุคลิกภาพ /นิสัยต่างๆ
7. บัญญัติ 10 ประการของการสื่อสารที่ดี
8. การให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) เพื่อการพัฒนาอย่างตอเนื่อง
– ประโยชน์ของการให้ข้อมูลป้อนกลับแก่ลูกน้อง
– วิธีการให้ข้อมูลป้อนกลับด้วยหลัก SMART Feedback
– เทคนิคการให้ feedback ลูกน้องที่ผลงานไม่ถึงมาตรฐาน และลูกน้องที่ผลงานสูงเพื่อยกระดับศักยภาพ
– การสื่อสารที่สร้างสรรค์ในการติดตามและให้ข้อมูลป้อนกลับ
ผู้เข้าฝึกอบรม
– พนักงาน
– หัวหน้างาน
– ผู้จัดการ
ระยะเวลาการฝึกอบรม:
1 วัน (6 ชั่วโมง)
จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม:เวลา:
30 คน
วิธีการฝึกอบรม: บรรยาย 40% กิจกรรมการเรียนรู้ 60%
– เป็นการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ (Adult Learning) โดยผู้เรียนต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง และนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในแนวทางของตัวเอง
– กิจกรรมการเรียนรู้
– การบรรยาย-สาธิต
– ระดมสมอง – เกมประกอบหลักสูตร – กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์
– การแสดงบทบาทสมมติ
– วิทยากรทำหน้าที่เพียงผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ (Facilitator) ทำให้การพัฒนาเป็นไปตามธรรมชาติของผู้เรียนรู้นั้น ๆ
วิธีการประเมินผล
– จากแบบสอบถามและการสังเกต
– จากการสุ่มตัวอย่างทดสอบและทบทวนกลับ
– จากข้อมูลที่ได้รับและการติดตาม วิเคราะห์ประเมินผลจากนามธรรมสู่รูปธรรมจนเกิดประสิทธิผลสูงสุด