เทคนิคการส่งเสริมความคิดเชิงบวก

(Positive Thinking Techniques Training Workshop)

หลักการและเหตุผล

โดยปกติธรรมชาติของคนเรานั้น มีพื้นฐานและประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน ทำให้คนเรามีทั้งความสุขและความทุกข์ รวมทั้งการที่ต้องประสบความสำเร็จหรือพบกับความล้มเหลวในระดับที่แตกต่างกันไป ซึ่งทั้งความสุขและความทุกข์ ความสำเร็จหรือความล้มเหลวในชีวิตคนเรานั้น ย่อมขึ้นอยู่กับปัญหาที่มีมาและการตีความของคนนั้นๆ กล่าวคือขึ้นอยู่กับความคิดนั่นเอง การคิดเชิงบวกเป็นการคิดแก้ปัญหาเมื่อมีปัญหาใดๆเกิดขึ้น บุคคลนั้นพร้อมคิดหาหนทางที่จะพัฒนาให้ก้าวหน้าได้ มีทัศนคติทีดี เป็นการคิดอย่างมีระบบ ทำให้มองเห็นคุณค่าในตนเอง มองโลกในแง่ดี ความคิดเชิงบวกเป็นความคิดดี เป็นความคิดที่เกิดมาจากปัญญาซึ่งเป็นการสร้างสติให้เกิดขึ้นก่อน เป็นการคิดบนพื้นฐานของความจริง ทำให้สามารถพบความจริง เมื่อพบความจริงก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ เมื่อแก้ปัญหาได้ก็จะทำให้เกิดประโยชน์และได้รับความสุขความเจริญก้าวหน้า ตลอดจนประสบความสำเร็จทั้งชีวิตในด้านหน้าที่การงานและชีวิตครอบครัว ทำให้สังคมอยู่ร่มเย็นเป็นสุข

ดังนั้นการปลูกฝังวัฒนธรรมทางความคิดเชิงบวก การพัฒนาความคิดให้บุคคลคิดได้ คิดเป็น ตลอดจนรู้จักคิด ส่งเสริมให้บุคคลเป็นคนฉลาดคิด มีการวินิฉัยใคร่ครวญไตร่ตรองพิจารณาอย่างรอบคอบ สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยผ่านรูปแบบของการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ ย่อมเป็นการสร้างเหตุที่ดี เมื่อมีการสร้างเหตุที่ดี ย่อมเกิดผลดีตามเหตุปัจจัยที่สร้าง ทำให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถพัฒนาตนและองค์กรไปสู่ความสุขความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไปตามระดับความคิดเชิงบวกที่มีของบุคลากรในองค์กรหรือในชุมชน,สังคมนั้นๆ

วัตถุประสงค์

1. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้และมีทักษะการคิดเชิงบวก สามารถคิดแก้ปัญหา พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส มีความสุขและความเจริญก้าวหน้าในชีวิตหน้าที่การงานและชีวิตครอบครัว

2. เพื่อสร้างสรรค์ให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ที่แท้จริงของความคิดเชิงบวก จนบรรลุวัตถุประสงค์ตรงตามเป้าหมายขององค์กร,ชุมชนและสังคมนั้นๆ

3. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตการทำงานและในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม

4. เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความเจริญก้าวหน้าในชีวิตทั้งชีวิตส่วนตัวและส่งผลดีต่อส่วนรวม

5. เพื่อเป็นการสนับสนุนพันธกิจหลักขององค์กร ชุมชนและสังคม ตลอดจนเป็นการเพิ่มชื่อเสียงให้กับองค์กร ชุมชนและสังคม ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายสืบต่อไป

หัวข้อการฝึกอบรม

 – ที่มาและองค์ประกอบของความคิด

 – คุณค่าและประโยชน์ของความคิด

 – นานาทัศนะเกี่ยวกับความคิด

 – คิดอย่างไรให้เป็นความคิดเชิงบวก

 – คุณค่าและประโยชน์ของความคิดเชิงบวก

 – ปัญหาและอุปสรรคของความคิดเชิงบวก

 – เทคนิคการเสริมสร้างความคิดเชิงบวก

 – หลักการคิดการแก้ปัญหาด้วยความคิดเชิงบวก

 – การลดความขัดแย้ง ความกลัว ความวิตกกังวล ด้วยการคิดเชิงบวก

 – ความคิดเชิงบวกกับการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสที่พลาดไม่ได้

 – การเสริมสร้างสติและสมาธิกับความคิดเชิงบวก

 – การเสริมสร้างความชื่นชมยินดีด้วยการคิดเชิงบวก

ผู้เข้าฝึกอบรม

– พนักงาน

– หัวหน้างาน

– ผู้จัดการ

ระยะเวลาการฝึกอบรม:

1 วัน (6 ชั่วโมง)

จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม:

30 คน

วิธีการฝึกอบรม: บรรยาย 40% กิจกรรมการเรียนรู้ 60%

– เป็นการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ (Adult Learning) โดยผู้เรียนต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง และนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในแนวทางของตัวเอง

– กิจกรรมการเรียนรู้

– การบรรยาย-สาธิต

– ระดมสมอง – เกมประกอบหลักสูตร – กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์

– การแสดงบทบาทสมมติ

– วิทยากรทำหน้าที่เพียงผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ (Facilitator) ทำให้การพัฒนาเป็นไปตามธรรมชาติของผู้เรียนรู้นั้น ๆ

วิธีการประเมินผล

– จากแบบสอบถามและการสังเกต

– จากการสุ่มตัวอย่างทดสอบและทบทวนกลับ

– จากข้อมูลที่ได้รับและการติดตาม วิเคราะห์ประเมินผลจากนามธรรมสู่รูปธรรมจนเกิดประสิทธิผลสูงสุด

ข้อมูลที่ได้รับจากการตั้งไลน์กลุ่ม PT Line (Positive Thinking) เพื่อติดตามผลหลังอบรม


ติดต่อสอบถาม

โทร.: 08 9177 1345 (พัชรี)

โทร.: 08 9448 8767 (วฤทธิ์)

อีเมล์: contact@gttc.co.th