การสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์พลังงานอย่างยั่งยืน
(Sustainable Energy Saving Awareness)
หลักการและเหตุผล
องค์กรใดก็ตามที่พนักงานทุกคนมีจิตสำนึกในการประหยัดfพลังงาน องค์กรนั้นจะเกิดการลดต้นทุนและมีใช้พลังงานได้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์พลังงานอย่างยั่งยืน” จะเป็นการฝึกอบรมที่ให้พนักงานตระหนักถึงคุณค่าของพลังงานและผลกระทบจากการใช้พลังงาน ขั้นตอนวิธีการในการใช้อย่างประหยัด เต็มประสิทธิภาพ เป็นระบบและง่ายในการนำไปใช้ปฏิบัติจริงทั้งในชีวิตประจำวันและในองค์กร ซึ่งจะมีกรณีตัวอย่างกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กรที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งได้ฝึกคิดการระดมสมองในการร่วมกันหาวิธีประหยัดพลังงานของผู้เข้าอบรม เพื่อสร้างจิตสำนึกการประหยัดพลังงานให้เกิดขึ้นแก่องค์กรได้
หลักสูตรนี้จึงเป็นคำตอบที่ดีของ การสร้างจิตสำนึกในการประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน และสามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อให้พนักงานทุกคนเกิดความตระหนักถึงผลกระทบด้านต่าง ๆ จาการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง ทั้งต่อตอนเอง ต่อองค์กร ประเทศชาติ และต่อสภาวะแวดล้อมของโลกเราได้อีกด้วย
วัตถุประสงค์
1. เพื่อสร้างจิตสำนึกในการประหยัดพลังงาน อย่างเป็นระบบ
2. เพื่อเสริมสร้างแนวคิดการป้องกัน การวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาด้านพลังงานอย่างเป็นมีรูปแบบ
3. เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาหน่วยงานและองค์กรด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง
4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความเข้าใจต่อผลกระทบของการใช้พลังงานในปัจจุบันได้อย่างถูกต้อง
5. เพื่อสร้างการทำงานเป็นทีม การยอมรับในความเห็นที่แตกต่าง เกิดความสามัคคี
6. เพื่อสร้างแรงจูงใจในการประหยัดพลังงานให้กับผู้เข้ารับการอบรม
หัวข้อการฝึกอบรม
1. จิตสำนึกการประหยัดพลังงาน
– แหล่งที่มาของพลังงาน
– พลังงานสำคัญอย่างไร
– การใช้พลังงานของโลกและประเทศไทยในปัจจุบัน
– พลังงานทดแทนในอนาคต
– จิตสำนึกและกิจกรรมการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์พลังงาน
2. วิธีการประหยัดพลังงานและผลกระทบจากการใช้พลังงานมากเกินความจำเป็น
– ภาวะโลกร้อน ที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม
– ผลกระทบด้านสภาวะอากาศของโลกและสิ่งแวดล้อม
– การคิดคำนวณค่าพลังงานไฟฟ้าอย่างง่าย
– วิธีตรวจสอบค่าใช้กำลังไฟฟ้าของเครื่องจักร อุปกรณ์ ที่ใช้ในองค์กร
– แนวทางและวิธีการประหยัดพลังงาน
– ทัศนะคติเดิม ๆ ที่ไม่ช่วยกันประหยัดพลังงาน
3. บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการอนุรักษ์พลังงาน และวิธีการประหยัดพลังงานในระบบต่างๆ
– บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการอนุรักษ์พลังงานในองค์กร
– การประหยัดระบบแสงสว่าง
– การประหยัดระบบการปรับอากาศ
– การประหยัดระบบการอัดอากาศ
– การประหยัดระบบมอเตอร์
– การประหยัดพลังงานในสำนักงาน
4. ตัวอย่างความสำเร็จในการประหยัดพลังงาน
5. แนวโน้มสถานการณ์ของการอนุรักษ์พลังงานในอนาคตเพื่อความยั่งยืน
– นโยบายไทยแลนด์ 4.0 กับการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม
– โรงงานและองค์กรในยุค ไทยแลนด์ 4.0
– การปรับตัวขององค์กรในอนาคต
– ISO 50001 ระบบมาตรฐานการจัดการด้านพลังงาน
– Workshop1: รวมทีมคำนวนค่าไฟ
– Workshop2: ระดมสมองเพื่อให้ได้ค่าพลังงานที่ต้องการ
– Workshop3: ช่วยคิด ช่วยจำ ช่วยลดใช้พลังงาน
ผู้เข้าฝึกอบรม
– พนักงาน
– หัวหน้างาน
– ผู้จัดการ
– ผู้ที่สนใจทั่วไป
ระยะเวลาการฝึกอบรม:
1 วัน (6 ชั่วโมง)
จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม:
30 คน
วิธีการฝึกอบรม: บรรยาย 40% กิจกรรมการเรียนรู้ 60%
– เป็นการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ (Adult Learning) โดยผู้เรียนต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง และนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในแนวทางของตัวเอง
– กิจกรรมการเรียนรู้
– การบรรยาย-สาธิต
– ระดมสมอง – เกมประกอบหลักสูตร – กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์
– การแสดงบทบาทสมมติ
– วิทยากรทำหน้าที่เพียงผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ (Facilitator) ทำให้การพัฒนาเป็นไปตามธรรมชาติของผู้เรียนรู้นั้น ๆ
วิธีการประเมินผล
– จากแบบสอบถามและการสังเกต
– จากการสุ่มตัวอย่างทดสอบและทบทวนกลับ
– จากข้อมูลที่ได้รับและการติดตาม วิเคราะห์ประเมินผลจากนามธรรมสู่รูปธรรมจนเกิดประสิทธิผลสูงสุด