การฝึกสติและสมาธิของครูในการจัดการเรียนรู้ยุคไทยแลนด์ 4.0
(Mindfulness and Meditation for the Teaching and Learning Activity for Promoting Thailand 4.0)
หลักการและเหตุผล
ในการจัดการเรียนรู้ ยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่รัฐบาลกำลังพยายามอย่างมากที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้เป็นไปตามกลไกที่เหมาะสมกับยุคสมัย ที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมช่วยกันผลักดันไปพร้อมๆกัน สิ่งที่สำคัญที่ทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ประสบความสำเร็จประการหนึ่งก็คือ การศึกษาที่ต้องสอดคล้องกับเป้าหมายตามแผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560 – 2579 ครูในฐานะผู้สอน ต้องเป็นผู้ที่มีศักยภาพ คิดเป็น กล้าเปลี่ยนแปลง และสามารถสร้างนวัตกรรมทางการเรียนการสอนได้เพราะทุกอย่างเปรียบเสมือนการเรียนรู้ ครูต้องเรียนรู้อยู่เสมอด้วยสติปัญญา มีท่าทีที่ถูกต้อง สามารถกดข่มอารมณ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ มีทักษะการตัดสินใจที่เฉียบขาดว่องไว กล้าได้กล้าเสีย และกล้าแสดงออก ซึ่งครูจะมีทักษะเหล่านี้ได้ต้องอาศัยการมีสติ และสมาธิเป็นบาทฐาน
ดังนั้นการจัดอบรมสัมมนาฝึกสติ และสมาธิเพื่อพัฒนาทางกายกรรมคือศีลและมโนกรรมคือจิตของครูให้มีพลัง สามารถเอาชนะปัญหาด้วยภูมิปัญญาจึงเป็นรูปแบบวิธีการที่สอดคล้องกับเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้นตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสอดคล้องกับสังคมการเรียนรู้ ในยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังเป็นแนวทางทางให้ครูมีแนวคิดหรือเกิดแรงบันดาลใจให้ครูสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงกระบวนการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนที่ตนรับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ ส่งผลให้ตัวครูมีคุณภาพชีวิตและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอนสูงขึ้นอย่างสืบเนื่องต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ครูฝึกหัดกำหนดอารมณ์ในการเริ่มต้นปฏิบัติสมาธิได้
2. เพื่อให้ครูฝึกหัดกำหนดลมหายใจตามขั้นตอนการทำสมาธิได้
3. เพื่อให้ครูฝึกหัดสังเกตการพิจารณาจิตและความคิดในขณะปฏิบัติได้
4. เพื่อให้ครูฝึกหัดควบคุมจิตให้อยู่ในอารมณ์อย่างเดียวได้
5. เพื่อให้ครูสามารถกำหนดวิธีควบคุมจิตที่เหมาะสมกับแนวทางของตนได้
6. เพื่อให้ครูสามารถกำหนดการออกจากกรรมฐานได้อย่างถูกต้อง
7. เพื่อให้ครูสามารถใช้สติและสมาธิสำหรับการทำหน้าที่และความรับผิดชอบในการจัดการเรียนการ สอนได้อย่างถูกต้อง
8. เพื่อให้ครูสามารถมีทักษะการควบคุมอารมณ์ในการสอนได้และสามารถแก้ปัญหาเมื่อต้องสอนนักเรียนที่สร้างปัญหาได้อย่างได้อย่างถูกต้อง
9. เพื่อให้ครูมีทัศนคติเชิงที่ดี ต่อการทำงานที่มีความเกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนได้อย่างมีความสุข ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะได้
10. เพื่อให้ครูมีศีลและสามารถนำความรู้จากหลักสูตรนำไปปรับใช้ในการเรียนการสอน และในชีวิตประจำวัน ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
11. เพื่อส่งเสริมบุคลิกภาพ และความมั่นใจของครูในการจัดการเรียนรู้ ยุคไทยแลนด์ 4.0 บนพื้นฐานของความเป็นจริงในปัจจุบัน
หัวข้อการฝึกอบรม
– ความหมายและความสำคัญของศีล สมาธิ สติและปัญญา
– คุณค่าและความสำคัญของสติและสมาธิต่อการสอน
– วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานประสบการณ์ด้านการฝึกสมาธิ
– บทบาทและหน้าที่ของครูกับความมีสมาธิในการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการจัดการเรียนรู้ยุคไทยแลนด์ 4.0
– ขั้นตอนและวิธีการฝึกสติและสมาธิ
– การเสริมสร้างทักษะทางการบริหารจุดพลังชีวิตและสมาธิวิธี
– หลักการบริหารความเครียดและความวิตกกังวลใจด้วยสมาธิวิธี
– หลักการควบคุมและบริหารอารมณ์ด้วยสมาธิวิธี
– การสอนและการทำงานเป็นการปฏิบัติธรรม
– เทคนิคการแก้ปัญหาด้วยสมาธิวิธี
– การเสริมสร้างปัญญาด้วยสมาธิวิธี
ผู้เข้าฝึกอบรม
– ครู อาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาที่สนใจ
– ผู้บริหารสถานศึกษา
ระยะเวลาการฝึกอบรม:
2 วัน (13 ชั่วโมง)
จำนวนผู้เข้าฝึกอบรม:
30 คน
วิธีการฝึกอบรม: บรรยาย 40% กิจกรรมการเรียนรู้ 60%
– เป็นการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ (Adult Learning) โดยผู้เรียนต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง และนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในแนวทางของตัวเอง
– กิจกรรมการเรียนรู้
– การบรรยาย-สาธิต
– ระดมสมอง – เกมประกอบหลักสูตร – กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์
– การแสดงบทบาทสมมติ
– วิทยากรทำหน้าที่เพียงผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ (Facilitator) ทำให้การพัฒนาเป็นไปตามธรรมชาติของผู้เรียนรู้นั้น ๆ
วิธีการประเมินผล
– จากแบบสอบถามและการสังเกต
– จากการสุ่มตัวอย่างทดสอบและทบทวนกลับ
– จากข้อมูลที่ได้รับและการติดตาม วิเคราะห์ประเมินผลจากนามธรรมสู่รูปธรรมจนเกิดประสิทธิผลสูงสุด